ฮีตสิบสอง แต่เดิมนั้นเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของชนชาติลาว ซึ่งรวมถึงประชาชนชาวไทยทางภาคอีสาน ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ฮีตสิบสอง เป็นวัฒนธรรมประเพณีที่แสดงถึงความเป็นชาติเก่าแก่และบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติในแต่ละท้องถิ่น และมีส่วนช่วยให้ชาติดำรงความเป็นชาติของตนอยู่ตลอดไป
ฮีตสิบสอง มาจากคำสองคำได้แก่ฮีต หรือจารีต หมายถึงความประพฤติ ธรรมเนียม ประเพณี ความประพฤติที่ดี และสิบสอง หมายถึงสิบสองเดือน ดังนั้นฮีตสิบสอง จึงหมายถึง ประเพณีที่ชนชาติลาว รวมถึงชาวอีสาน ปฏิบัติสืบต่อกันมาในโอกาสต่างๆ ทั้งสิบสองเดือนของแต่ละปี เป็นการผสมผสานพิธีกรรมที่เกี่ยวกับเรื่องผี พิธีกรรมทางการเกษตร เข้ากับพิธีกรรมทางพุทธศาสนา ล้วนเป็นประเพณีที่ส่งเสริมให้คนในชุมชน ได้ออกมาร่วมกิจกรรมพบปะสังสรรค์กันเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงและเพื่อความสมัครสมานสามัคคี รักใคร่ปรองดองกันของคนในท้องถิ่น เป็นการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามมาแต่อดีต จวบจนปัจจุบัน
ฟังเอาเด๊อพี่น้อง ฮีตสิบสองของพ่อแม่ มีมาแต่เก่ากี้ ประเพณีตั้งต่อบุญ แต่ก่อนพุ้น พ่อแม่เฮาทำมา สืบฮอยตาวาฮอยยาย อย่าให้หายรักษาไว้ ความเป็นไทยอิสานของเฮานี้ ประเพณีมีคุณค่า วัฒนธรรมนำพา ปฏิบัติมาตั้งแต่เค้า โบราณเจ้าเผิ่นสั่งสอน...
บุญเดือนอ้าย พุทธศาสนิกชนนิยมบริจาคทาน รักษาศีล ฟังธรรม ร่วมกันดูแลอุปัฎฐากพระสงฆ์ที่เข้าอยู่กรรม เรียกอีกอย่างว่าปริวาสกรรม เป็นส่วนหนึ่งของการประพฤติวุฏฐานวิธี (กฎระเบียบอันเป็นเครื่องออกจากอาบัติ)
เดือนอ้าย หรือเดือนเจียง คือเดือนที่หนึ่ง ตามประเพณีอีสาน จะมีการทำบุญประจำเดือน คือบุญเข้ากรรม (บุญเดือนเจียง) เป็นเดือนที่พระสงฆ์เข้าอยู่กรรม เพื่อให้พระสงฆ์ผู้ได้ล่วงละเมิดพระวินัยต้องอาบัติสังฆาทิเสส ได้สารภาพต่อหน้าคณะสงฆ์ เป็นการฝึกจิตสำนึกถึงความบกพร่องของตน และมุ่งประพฤติตนให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยต่อไป
บุญคูณลาน บางท้องที่เรียกบุญกุ้มข้าวใหญ่ คือบุญประเพณีที่ทำขึ้นในเดือนยี่ หรือเดือนสองของปี ชาวอีสานนิยมนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์และประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญข้าว
ตามธรรมเนียมประเพณีของชาวนาในภาคอีสาน หลังจากเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยว นิยมนำข้าวที่นวดแล้วกองขึ้นให้สูง จากนั้นจึงทำบุญประเพณีเพื่อเป็นสิริมงคล เรียกว่าบุญคูณลาน คำว่าลาน คือสถานที่สำหรับนวดข้าว ส่วนคำว่าคูณลาน คือเพิ่มเข้าให้เป็นทวีคูณ หรือทำให้มากขึ้น นั่นเอง
บุญข้าวจี่ บางท้องที่เรียกบุญข้าวกี่ คือบุญประเพณีที่ทำขึ้นในเดือนสาม ภายหลังการทำบุญวันมาฆบูชา ชาวอีสานนิยมนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์และประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญข้าวในเล้า (ยุ้งฉาง)
บุญข้าวจี่ เป็นกิจกรรมร่วมของชุมชนหลายหมู่บ้าน นั่นคือ ชาวอีสานบางหมู่บ้านเรียกงานบุญนี้ว่าบุญคุ้ม กล่าวคือ จะทำบุญกันเป็นคุ้มๆ หรือบางหมู่บ้านก็จะทำกันที่วัดประจำหมู่บ้าน ชาวบ้านที่เป็นเจ้าภาพก็จะบอกบุญไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงให้มาร่วมกันทำบุญด้วย
พุทธศาสนิกชนร่วมฟังเทศน์มหาชาติ หรือมหาเวสสันดรชาดก ในประเพณีบุญผะเหวด ตามบุญประเพณีฮีตสิบสอง ของชาวอีสานที่จัดขึ้นในเดือน ๔ ของทุกปี
บุญเดือนสี่ หรือบุญพระเวส บ้างก็เขียนเผวส (คำอ่าน: ผะ - เหวด) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าบุญมหาชาติ เป็นบุญที่มีการเทศน์มหาชาติ หรือมหาเวสสันดรชาดก เป็นนิทานเรื่องยาวจำนวน ๑๓ ผูก หรือ ๑๓ กัณฑ์ ๑,๐๐๐ พระคาถา ซึ่งแสดงถึงจริยวัตรของพระโคตมพุทธเจ้า เมื่อคราวที่พระพุทธองค์ทรงเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร ในบุญผะเหวดนี้ ชาวบ้านนิยมทำข้าวปุ้น (ขนมจีน) ไว้ทุกบ้านเรือน สมกับคำกล่าวที่ว่า "กินข้าวปุ้น เอาบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ "
ปฏิบัติธรรมสืบสานเจตนารมณ์พระเดชพระคุณคุณูปมาจารย์ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต (ธ) และรักษาโรคด้วยพืชสมุนไพร โดย ท่าน อ.ลักษณ์ พุทธธรรม (ธ)
นอบน้อม เชิดชู ปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ทุกๆ พระองค์
สถานที่นี้เป็นสถานที่สงบ ฝึกใจ ฝึกตน หากใจยังสกปรกจงกลับไปยังที่ของท่านเถอะ
สถานที่นี้เป็นที่เจริญ มรรคมีองค์ ๘ พรหมวิหาร ๔ เพื่อความหลุดพ้น
สถานที่นี้ ไม่รับเจิม ดูดวง ประกอบพิธีกรรมทางโลกทุกกรณี
๐๘.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. เวลาพักผ่อนของท่านอาจารย์ ห้ามรบกวนโดยเด็ดขาด
๑๓.๐๐ - ๑๘.๐๐ น. เวลาที่ศิษยานุศิษย์และญาติธรรม สามารถเข้าพบและสนทนาธรรมกับครูบาอาจารย์ได้ตามเหมาะสม
ศาลาภิรมย์ธรรม ๘๕/๑ ม.๓ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ๓๔๒๖๐
ห้ามบุคคลภายนอก เข้าเขตหน่อแก้วยามวิกาล ในทุกกรณี
ห้ามศิษยานุศิษย์นำสิ่งเสพติดทุกชนิด เข้ามาภายในหน่อแก้วสถาน